แกงเทโพเจ อร่อยครบรสอาหารไทย การงดเว้นอาหารบางอย่างในช่วง เทศกาลกินเจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันทำให้คนเราสามารถเลิกในสิ่งที่ชอบได้ แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารในเทศกาลนี้ มักจะมีแต่แป้งกับไขมันเป็นส่วนประกอบ ซึ่งถ้ากินเข้าไปในปริมาณมากทุกวันก็จะทำให้เกิดการสะสม และนำมาซึ่งโรคต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเมนู แกงเทโพเจ ที่มีรสชาติครบเครื่องทั้งเปรี้ยว, หวาน, มัน, เค็ม, เผ็ด ดังนั้น การทำ อาหารเจ ด้วยตัวเองน่าจะเป็นทางเลือกที่เข้าท่า เพราะอย่างน้อยเราสามารถจำกัดเครื่องปรุง แล้วก็ได้อาหารที่ถูกปากด้วย และอีกอย่างหนึ่งก็คือ อาหารประเภทนี้ไม่ต้องอาศัยเครื่องปรุงอะไรมากมาย เพียงแค่มีวัตถุดิบไม่กี่อย่างก็สามารถทำ อาหารเจ รสชาติไทยที่ไม่น่าเบื่อได้ในเวลาอันรวดเร็ว
วัตถุดิบและวิธีการทำ แกงเทโพเจ
ส่วนผสม
- โปรตีนเกษตร
- ผักบุ้งไทย
- เห็ดออรินจิ
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลมะพร้าว
- พริกแกงคั่ว
- หัวกะทิ / หางกะทิ
- น้ำมันมะพร้าว
- มะกรูด
- ซีอิ๊วขาว
วิธีการทำ
- ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป จากนั้นผัดพริกแกงคั่วให้หอมแล้วเทหัวกะทิตาม
- เมื่อกะทิเริ่มแตกมันให้ใส่โปรตีนเกษตรกับเห็ดออรินจิลงไป ตามด้วยหัวกะทิกับหางกะทิ
- เมื่อน้ำกะทิเดือดแล้วให้ใส่ผักบุ้งไทยหั่นท่อน กับมะกรูดที่ผ่าครึ่งแล้วลงไป
- เพิ่มรสชาติด้วยน้ำมะขามเปียก, น้ำตาลมะพร้าว และซีอิ๊วขาว ชิมให้มีรสเปรี้ยว, หวานนำ ตามด้วยเค็ม
- ปิดไฟแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
เทคนิคความอร่อย
ในการทำอาหารแต่ละมื้อของแต่ละบ้าน ก็จะมีสูตรที่ต่างกันไปไม่มีใครผิด ไม่ว่าใครก็สามารถปรุงรสในแบบที่ตัวเองชอบได้ตามต้องการ แต่จะดีกว่าไหมถ้าหากเรามี เทคนิคความอร่อย ที่จะช่วยเสริมทัพให้อาหารรสชาติดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมนู แกงเทโพเจ ถ้าใครอยากรู้จะแนะนำให้ ดังนี้
- พริกแกง จะต้องเป็นพริกแกงคั่ว เนื่องจากไม่มีเครื่องเทศเป็นส่วนผสม มันก็เลยเข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีรสเปรี้ยวมากกว่าพริกแกงเผ็ดที่ผสมเครื่องเทศ
- น้ำมะขามเปียก ดีกว่าการใช้มะนาวที่มีความเปรี้ยวโดดเพียงอย่างเดียว เพราะน้ำมะขามเปียกจะให้รสชาติที่เปรี้ยวกลมกล่อม
- น้ำตาลมะพร้าว จะมีความหวานหอม เข้ากันได้ดีกับกะทิ ไม่เหมือนกับการใช้น้ำตาลทราย ที่น่าจะเหมาะกับอาหารประเภทอื่นมากกว่า
- น้ำมันมะพร้าว ถ้าโดยปกติแล้วสามารถใช้น้ำมันพืชได้ แต่ถ้าเลือกที่จะใช้น้ำมันมะพร้าวก็จะรู้สึกได้เลยว่า เมื่อนำไปผัดกับพริกแกงแล้วจะมีความหอมกว่า