ผัดมาม่าขี้เมาเจ อร่อยง่ายไม่ต้องรอสิ้นเดือน สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ คำนี้เป็นคำที่หลายคนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่เงินไม่ค่อยพอใช้ เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายหลาย ๆ อย่าง มันสวนทางกับรายรับ เพราะฉะนั้นเมนูอาหารยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่หลายคนเลือกตุนไว้กินยามที่เงินเหลือน้อย และเมนู ผัดมาม่าขี้เมาเจ ก็ถูกบรรจุเผื่อแผ่ไปถึงผู้เข้าร่วมการกินอาหารเจ เนื่องจากเมนูนี้จะไม่ใส่ผักที่มีกลิ่นฉุน อย่างเช่น กระเทียมลงไป ก็เลยทำให้สามารถกินได้อย่างสบายใจ ว่าแต่วิธีการปรุงจะเหมือนแบบปกติหรือไม่ ไปดูกันเลย
วัตถุดิบและวิธีการทำ ผัดมาม่าขี้เมาเจ
ส่วนผสม
- เส้นมาม่า
- เต้าหู้
- เห็ดหอม
- พริกชี้ฟ้าสด
- กระชาย
- พริกไทยอ่อน
- ใบโหระพา
- ซอสถั่วเหลือง
- น้ำตาล
- น้ำมันพืช
- กะหล่ำปลี
วิธีการทำ
- ล้างวัตถุดิบทั้งหมดให้สะอาด จากนั้นนำเห็ดหอมไปแช่น้ำให้นิ่มแล้วหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ
- ซอยกระชายออกเป็นเส้น ๆ พร้อมกับหั่นกะหล่ำปลี, พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง และหั่นเต้าหู้เตรียมรอไว้
- ตั้งกระทะน้ำแล้วใส่น้ำมันลงไป เมื่อร้อนแล้วให้ใส่เต้าหู้, เห็ดหอม, กระชายลงไปผัดก่อน
- ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสกับน้ำตาล จากนั้นใส่กะหล่ำปลี และนำเส้นมาม่าที่ลวกแล้วใส่ตามลงไป
- ใส่พริกชี้ฟ้า, ใบโหระพา, พริกไทยอ่อนลงไป ผัดให้เข้ากัน หากรสชาติยังไม่ถูกปากสามารถปรุงเพิ่มได้
ทำยังไงให้ผัดมาม่าขี้เมาเจดูน่ากิน
- การลวกเส้น เป็นองค์ประกอบหลักของเมนูนี้ เพราะถ้าลวกนานเกินไปจนเส้นนิ่ม ก็จะทำให้เวลาที่นำเส้นลงไปผัดเละจนดูไม่น่ากิน แนะนำให้ใช้น้ำร้อนจัดในการลวก เสร็จแล้วให้นำขึ้นมาพักก่อนค่อยนำไปผัด
- เต้าหู้แผ่น ควรหั่นให้มีขนาดที่พอดี ไม่ได้มีขนาดเล็กมากเกินไป หรือว่ามีขนาดใหญ่มากเกินไป
- ผักกะหล่ำปลี ต้องล้างให้สะอาดด้วยการแช่น้ำ และควรหั่นให้มีขนาดที่ใหญ่ เพราะเมื่อเวลาที่นำลงไปผัด ผักจะมีการยุบตัวลงไปอีก ถ้าหั่นเล็กเกินไปจะทำให้ดูไม่น่ากิน
- แครอท ควรใช้มีดสับให้เป็นเส้น ๆ แล้วใส่ลงไปในปริมาณที่ไม่ต้องเยอะมาก
- เห็ดหอม ต้องแช่ให้นิ่มแล้วควรหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
- น้ำมัน ควรใช้น้ำมันใหม่ในการผัด เพราะถ้าใช้น้ำมันเก่าจะทำให้ได้กลิ่นอาหารเก่าด้วย และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกใช้น้ำมันสำหรับสุขภาพ ซึ่งจะดีกับร่างกายมากกว่า
- ซอสปรุงรส ควรใช้เป็นพวกซอสถั่วเหลือง หรือซอสเห็ดหอมเท่านั้น
