เต้าหู้ทอดเจ ของว่างยามหิว พร้อม 2 สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดเจ

เต้าหู้ทอดเจ

เต้าหู้ทอดเจ ของว่างยามหิว พร้อม 2 สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดเจ อย่างที่คนกินเจทั้งหลายรู้กันดีว่าเทศกาลแห่งการ ลด ละ เลิกนั้น มีข้อห้ามหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการห้ามกินอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์, การห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุน หรือแม้กระทั่งการแยกถ้วยชามอาหาร ถ้าหากเป็นผู้ที่ปฏิบัติจริงก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะส่วนใหญ่ก็คงทำตามกฎได้อยู่แล้ว แต่ถ้าบางคนที่ยังเป็นมือใหม่อยู่ก็อาจมีการเผลอพลาดไปบ้างก็ได้ เนื่องจากเทศกาลนี้มีขึ้นแค่ไม่กี่วัน จะให้ทำตามเกณฑ์เลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าตั้งใจแล้วไม่อยากพลาดลองทำ เต้าหู้ทอดของว่างยามหิว พร้อม 2 สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดเจ ไว้กินกันดีกว่า จะแจกจะขายก็ว่าไปตามสถานการณ์ ชอบแบบไหนเลือกเอาได้เลย

วัตถุดิบและวิธีการทำ เต้าหู้ทอดเจ

ส่วนผสม

  • เต้าหู้ขาว
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำส้มสายชู
  • เกลือป่น
  • พริกชี้ฟ้า
  • งาขาว

วิธีการทำ เต้าหู้ทอดเจ

  1. นำเต้าหู้มาหั่นให้เป็นแนวทแยง ก็จะได้เต้าหู้ทั้งหมด 4 ชิ้น เตรียมรอไว้
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันแล้วนำเต้าหู้ลงไปทอดด้วยไฟอ่อน เมื่อเต้าหู้เหลืองกรอบดีแล้วให้พักสะเด็ดน้ำมัน
  3. เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสูตรที่ชอบ

วัตถุดิบและวิธีการทำน้ำจิ้มถั่ว เต้าหู้ทอดเจ

  • น้ำมะขามเปียก  
  • น้ำเปล่า
  • น้ำตาลปี๊บ
  • พริกแดง
  • ถั่วลิสงคั่ว

วิธีการทำ น้ำจิ้มถั่ว

โขลกพริกแดงแบบหยาบ ๆ ประมาณ 4 – 5 เม็ด เตรียมรอไว้ แล้วหาหม้อมาเทน้ำเปล่าลงไปตั้งไฟ ตามด้วยการเติมน้ำมะขามเปียก, น้ำตาลปี๊บ และพริกแดงโขลกแล้วคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นตักใส่ถ้วยแล้วโรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว

วัตถุดิบ / เครื่องปรุงน้ำจิ้มงาคั่ว

  • น้ำตาลทราย
  • น้ำส้มสายชู
  • เกลือป่น
  • พริกชี้ฟ้า
  • งาขาว

วิธีการทำน้ำจิ้มงาคั่ว

นำหม้อมาตั้งไฟแล้วใส่น้ำตาลทราย, น้ำส้มสายชู และเกลือป่น แล้วเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมจะเริ่มเหนียวข้น จากนั้นให้ใส่พริกตามลงไปแล้วโรยหน้าด้วยงาขาวคั่ว

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนู เต้าหู้ทอดพร้อม 2 สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดเจ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ยิ่งใกล้ช่วงการกินเจแบบนี้แล้ว การทำอาหารกินเองแบบไม่ต้องไปปนเปื้อนกับใคร ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย แถมเรายังไม่ต้องไปต่อคิวตามร้านให้เหนื่อยด้วย ทั้งนี้การเลือกวัตถุดิบก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าไม่อยากกินของทอดแล้วอ้วน ก็ควรเลือกใช้น้ำมันสุขภาพ เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกแทนน้ำมันทั่วไป และเรื่องที่ลืมไม่ได้เลยก็คือปริมาณที่ควรกินแต่พอดี