ผัดผักกระเฉดหมูกรอบ ผัดยังไงให้กรอบไม่เหนียว

ผัดผักกระเฉดหมูกรอบ

ผัดผักกระเฉดหมูกรอบ ผัดยังไงให้กรอบไม่เหนียว หมูกรอบ เป็นอาหารรสเลิศที่ใคร ๆ ต่างก็ชอบ เพราะความกรอบหอมมัน ทำให้การกินอาหารอร่อยกว่าปกติ แต่ราคาของมันอาจจะไม่ค่อยเป็นมิตรมากนัก เพราะแค่เนื้ออย่างเดียวก็ปาไปหลายบาทแล้ว ซึ่งกว่าจะผ่านกระบวนการเปลี่ยนให้มาเป็นหมูกรอบ ก็จะต้องบวกราคาเข้าไปอีก ยิ่งถ้ากินแบบเดี่ยว ๆ ก็ยิ่งราคาสูง และถ้ากินรวมกับผักชนิดอื่น เช่น ผักกระเฉด ก็ดูเข้ากันได้ดี แต่บางคนทำออกมาแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยอร่อยเหมือนร้าน ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเพราะยังไม่รู้วิธีนั่นเอง เดี๋ยวเราไปดูวิธี ผัดผักกระเฉดหมูกรอบยังไงให้ไม่เหนียว กัน

วัตถุดิบและวิธีการทำ ผัดผักกระเฉดหมูกรอบ

ส่วนผสม

  • ผัดกระเฉด 100 กรัม
  • หมูกรอบ 50 กรัม
  • น้ำมัน (เล็กน้อย)
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า เล็กน้อย
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

  1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันแล้วผัดกระเทียมกับพริกให้หอม
  2. นำผักกระเฉดที่ล้างสะอาด เด็ดยอดอ่อนเรียบร้อยวางลงบนจาน
  3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม, น้ำตาล, กระเทียม และพริกลงบนจาน เพื่อที่จะได้ใส่ลงไปทีเดียว
  4. เร่งไฟแล้วเทเต้าเจี้ยวกับน้ำเปล่า จากนั้นเทผักกระเฉดลงไปผัดกลับไปกลับมาแบบค่อย ๆ
  5. ใส่หมูกรอบตามลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับการทำหมูกรอบ

  1. ต้มหมูโดยการเอาด้านหนังลง ใช้เวลา 50 นาที
  2. ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วแล้วนำไปผึ่งให้แห้ง
  3. นำหมูเข้าเตาไมโครเวฟ 2 นาที
  4. ทอดหมูให้ขึ้นฟูโดยเทน้ำมันให้เกือบท่วม
  5. ตักขึ้นมาพักแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

เทคนิคการเลือกผักกระเฉด

เมื่อได้ ผักกระเฉด มาแล้วให้ทำการลอกนมออก จากนั้นเด็ดให้เป็นท่อน ๆ หากท่อนไหนเป็นยอดอ่อนจะมีเสียงดัง แต่ถ้ายอดแก่จะไม่มีเสียง เมื่อเลือกเสร็จให้นำไปแช่น้ำแข็ง ก็จะได้ความกรอบที่ต้องการ

เพียงแค่ขั้นตอนง่าย ๆ เท่านี้ จะทำให้เราได้ ผัดผักกระเฉดหมูกรอบ ร้อน ๆ มากินแล้ว แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าเราผัด หมูกรอบ ลงไปด้วย มันยังจะกรอบอยู่ไหม คำตอบคือมันจะไม่กรอบเท่ากับตอนแรก แต่ถ้าใครอยากกินแบบกรอบ ๆ แนะนำให้นำมาโรยด้านบนแทน ส่วนการที่จะยังคงความกรอบของ ผักกระเฉด จะอยู่ในช่วงของการผัด ที่ไม่ควรจะกด หรือขยี้ผัก แต่ควรกลับไปมามากกว่า และที่สำคัญกว่านั้นก็อยู่ที่การเลือกให้ดีด้วยเช่นกัน คิดซะว่าแค่ยอมเสียเวลาเลือกผักอีกหน่อย เพื่อแลกกับความอร่อยแล้วก็ได้ประโยชน์ต่อร่างกาย แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มกับเวลาที่เสียไปแล้วล่ะ