![คุกกี้สิงคโปร์ คุกกี้สิงคโปร์](https://menu-ded.com/wp-content/uploads/2023/09/คุกกี้สิงคโปร.jpg)
คุกกี้สิงคโปร์ สูตรทำง่าย ทำทานก็ได้ ทำขายก็ดี คุกกี้สิงคโปร์สูตรดั้งเดิม มีประวัติและที่มาเป็นของคนไทย คิดค้นขึ้นโดยคนไทย แต่ที่ตั้งชื่อว่า คุกกี้สิงคโปร์ นั้นเพราะว่าส่วนผสมมีแป้งมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ ซึ่งสมัยก่อนต้องนำเข้ามาจากสิงคโปร์นั่นเอง ซึ่งเป็นคุกกี้ที่มีเม็ดมะม่วงหิมพานต์ประดับอยู่บนหน้า เพิ่มความสวยงาม ความกรอบอร่อย และความหอมหวานมันไปกับ กลิ่นอบควันเทียน เนย นม และน้ำตาล มีขนาดชิ้นพอดีคำ นับว่าเป็นคุกกี้ยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งที่ขายดีในไทย บทความนี้เราจะพาไปดูวิธีทำคุกกี้สิงคโปร์สูตรง่าย ๆ แบบละลายในปากกัน
วัตถุดิบและวิธีการทำ คุกกี้สิงคโปร์
ส่วนผสม
- แป้งมัน 120 กรัม
- แป้งสาลี 340 กรัม
- น้ำตาลไอซิง 160 กรัม
- น้ำมันรำข้าว 30 มิลลิลิตร
- เนยแท้ 1 ก้อน (ประมาณ 227 กรัม)
- นมข้นจืด 150 มิลลิลิตร
- ไข่แดง 2 ฟอง
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- เทียนอบขนม 1 แท่ง
วิธีการทำ
- ใช้เครื่องตี ตีเนยแท้ให้ขึ้นฟูจนเปลี่ยนเป็นสีขาว จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลไอซิงลงไป และตีให้เข้ากัน
- ร่อนแป้งมันและแป้งสาลีลงในชามที่ตีส่วนผสม
- ตีด้วยความเร็วต่ำ จากนั้นใส่นมข้นจืด ตามด้วยน้ำมันรำข้าว และตีต่อไป จนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำเนื้อแป้งที่ตีเสร็จแล้ววางลงบนกระดาษไข จากนั้นใช้ที่นวดแป้งรีดให้ได้ความหนาประมาณ 1 นิ้ว
- ใช้พิมพ์กลมขนาดเล็กกดทับแป้งให้เป็นทรงกลม เรียงลงบนถาดสำหรับใส่เตาอบ
- ผสมนมข้นจืด ไข่แดง และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน จากนั้นทาลงบนแป้งกลมที่เตรียมไว้
- วางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไว้ด้านบน และทาส่วนผสมในข้อ 6 อีกครั้งหนึ่ง
- ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นำคุกกี้สิงค์โปร์ที่เตรียมเสร็จแล้วเข้าไปอบเป็นเวลา 10 นาที
- เมื่อคุกกี้สุกแล้วให้นำออกจากเตาอบ จากนั้นนำมาวางใส่ภาชนะสำหรับอบเทียนอีกที อาจเป็นโถแก้วหรือชามเซรามิกที่มีฝาปิดก็ได้
- จุดเทียนอบขนมแล้วดับเพื่อให้เกิดควัน จากนั้นใส่เทียนลงบนถ้วยเล็ก ๆ และวางไว้ตรงกลางภาชนะ โดยมีคุกกี้ที่อบเสร็จแล้วล้อมรอบ
- อบเทียนทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาจัดใส่จากพร้อมเสิร์ฟ
คุกกี้สิงคโปร์วิธีทำมีเทคนิคอยู่ว่า อย่านวดแป้ง แต่ให้พักแป้งไว้แทน เพื่อให้น้ำมันและเนยซึมเข้าเนื้อแป้ง เวลาอบขนมออกมาจะทำให้กรุบกรอบอร่อยกว่า และการรีดแป้งต้องรีดให้หนาเท่ากันทั้งถาด เพราะไม่เช่นนั้นเวลาคุกกี้สุกจะสุกไม่เท่ากัน ควรวางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไว้ตรงกลางเพื่อความสวยงาม ส่วนการวางคุกกี้ต้องวางให้ห่างกันเล็กน้อย เพราะเมื่อแป้งโดนความร้อนจะมีการขยายตัวนั่นเอง