ในบรรดาเมนูต้มยำทั้งหลาย ต้มยำปลาทู คืออาหารพื้นบ้านที่ทั้งอร่อย ประหยัด และดีต่อสุขภาพ ด้วยความหอมของสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด รวมกับความหวานจากปลาทูต้มสด ๆ และรสเปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อมที่คุ้นลิ้น จึงไม่แปลกที่เมนูนี้จะครองใจหลายครอบครัวทั่วไทยมาอย่างยาวนาน
นอกจากรสชาติที่จัดจ้านแล้ว ต้มยำปลาทูยังมีจุดเด่นคือความสดใหม่ของวัตถุดิบ ใช้เครื่องปรุงไม่เยอะ แต่ได้รสลึกอย่างน่าทึ่ง เหมาะทั้งกับมื้อเช้าเที่ยงเย็น หรือช่วงที่อยากกินอะไรเบา ๆ แต่ยังไม่ทิ้งรสเผ็ดแบบไทยแท้ เมนูเด็ด จึงได้นำสูตรมาแบ่งปันเพื่อนำไปทำรับประทานกันในครอบครัวให้ได้อร่อยถึงใจ
วัตถุดิบในการทำ ต้มยำปลาทู
- ปลาทูสด 2–3 ตัว (ควักไส้ ล้างให้สะอาด)
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- ตะไคร้ 2 ต้น (ทุบแล้วหั่นท่อน)
- ข่า 4–5 แว่น
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- หอมแดงทุบ 3 หัว
- พริกขี้หนูสวนทุบ 10 เม็ด (หรือมากน้อยตามชอบ)
- มะนาว 2–3 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- ผักชีฝรั่งสำหรับโรยหน้า
ขั้นตอนวิธีการทำ
- ล้างปลาทูให้สะอาด ผ่าท้อง ควักไส้ และล้างด้วยน้ำเกลือเพื่อดับกลิ่นคาว แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งน้ำในหม้อให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงไป ต้มให้กลิ่นหอมออกมา
- นำปลาทูลงต้มในน้ำสมุนไพร ใช้ไฟกลาง ต้มไปประมาณ 7–10 นาที ระวังอย่าคนแรงจนปลาทูแตก
- จากนั้นปรุงรสโดยใส่น้ำปลา เกลือ ชิมรสตามชอบ ใส่พริกขี้หนูทุบลงไป แล้วปิดไฟก่อนบีบมะนาวลงทีหลัง (เพื่อให้เปรี้ยวสดและไม่ขม)
- จัดเสิร์ฟร้อน ๆ โรยผักชีฝรั่งก่อนตักเสิร์ฟ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันเป็นอย่างดี
เคล็ดลับ
- ควรใช้ปลาทูสด ไม่แช่แข็ง เพื่อให้เนื้อหวานและไม่คาว
- อย่าบีบมะนาวตอนน้ำเดือดจัด เพราะความร้อนจะทำให้รสขมและเสียกลิ่นหอม
- หากชอบรสเข้มข้น สามารถเติมน้ำต้มยำก้อน (แบบสำเร็จ) ลงเสริมหรือใส่พริกเผาเล็กน้อยได้
ประโยชน์ของ ต้มยำปลาทู
- ปลาทู อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ
- สมุนไพรไทย อย่างตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด มีฤทธิ์ช่วยย่อย ขับลม ลดอาการแน่นท้อง
- ไม่ใส่กะทิ ทำให้ไขมันต่ำ เหมาะสำหรับคนควบคุมน้ำหนักหรือผู้สูงอายุ
- วิตามินจากมะนาวและพริก ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัดฃ
ต้มยำปลาทู คือเมนูไทยแท้ที่รวมความอร่อยแบบบ้าน ๆ เข้ากับคุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วน ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ง่าย ทำได้เร็ว และเหมาะกับทุกมื้อ ใครที่อยากลองทำต้มยำแบบไม่เลี่ยน ลองสูตรนี้แล้วจะติดใจทั้งครอบครัวแน่นอน