ข้าวแช่ หน้าร้อน ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นบ้านยอดนิยมของเมืองไทยโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน เพราะว่าเป็นอาหารที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนผสมที่หลากหลาย โดยข้าวแช่มักจะมีส่วนประกอบได้แก่ข้าวหุงสุกและนำมาแช่น้ำเย็นให้เย็นสนิทและเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่มีความหลากหลาย หลายคนคงอยากจะทำเองไว้ทานที่บ้านหรืออยากจะลองรังสรรค์เป็นเมนูใหม่ ๆ ประจำร้าน ก็สามารถที่จะมีวิธีการทำง่ายๆใครๆก็ทำได้ แต่จะทำอย่างไรให้อร่อย ไปดูกันเลย
ข้าวแช่ หน้าร้อน คืออะไร ทำไมนิยมทานหน้าร้อน
ข้าวแช่ หน้าร้อนคือข้าวสุกที่คัดเอาส่วนที่สุก ๆ เมือก ๆ ออกให้หมด แล้วให้เหลือแต่ข้าวส่วนที่แข็ง ๆ เพื่อที่เวลาใส่ในน้ำทานจะได้ไม่ขุ่น ส่วนน้ำที่หอม ๆ จะผ่านการอบควันเทียนและลอยด้วยดอกไม้กลิ่นหอมพร้อมกับทานกับเครื่องเคียง ถือเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวมอญ ซึ่งในอดีตจะทำข้าวแช่ไว้เพื่อเป็นการสักการบูชาเทพเจ้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นอกจากนี้ยังนิยมทำถวายพระและเลี้ยงแขกในงานประเพณีสงกรานต์ของทุกปี ซึ่งเมื่อชาวมอญได้อพยพเข้ามาจึงทำให้คนไทยได้รู้จักกับข้าวแช่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เผยสูตรการทำ ข้าวแช่ หน้าร้อน ให้อร่อยชื่นใจ คลายร้อนได้แบบฟิน ๆ
ในอดีตการทำข้าวแช่ หน้าร้อนถือเป็นอาหารของชนชั้นสูง ถือเป็นอาหารในรั้วในวังเลยทีเดียว ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงโปรดอาหารชนิดนี้เป็นพิเศษ ซึ่งในวังจะเรียกว่าข้าวเสวยหรือข้าวแช่เสวยซึ่งหมายถึงข้าวที่ปรุงขึ้นมาเพื่อให้พระมหากษัตริย์เสวยนั่นเอง ในอดีตชาวบ้านธรรมดาคงไม่มีโอกาสที่จะได้ทาน แต่ในยุคปัจจุบันนี้สามารถหาทานได้โดยทั่วไปและสามารถทำเองได้ไม่ยากเลย โดยมีวัตถุดิบดังนี้
วัตถุดิบ ข้าวแช่ หน้าร้อน
- ข้าวหอมมะลิแท้ 100% คัดพิเศษ 200 กรัม
- น้ำแช่ลอยดอกมะลิ แช่เย็น 1 ถ้วย
เครื่องเคียงของข้าวแช่ หน้าร้อน
หัวไชโป๊วผัดหวาน
- หัวไชโป๊วเค็มหั่นเป็นเส้นยาว 200 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 70 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
พริกหยวกสอดไส้
- หอมแดง 20 เม็ด
- พริกหยวก 15 เม็ด
- หมูสับ 200 กรัม
- กระเทียม 3 กลีบ
- รากผักชี 3 ต้น
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- น้ำปลา เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ อย่างละ 1 ช้อนชา
ปลาหวาน
- ปลาช่อนนึ่งสุกแกเอาแต่เนื้อ 450 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 350 กรัม
- แบะแซ 60 กรัม
- เกลือป่น 3 ช้อนชา
- น้ำมันเจียวหอม 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนและวิธีการทำข้าวแช่ หน้าร้อน
เนื่องจากในอดีตข้าวแช่ หน้าร้อนเป็นอาหารชั้นสูง การทำห้องแช่หน้าร้อนจึงค่อนข้างที่จะมีวิธีทำที่ละเอียดโดยจะต้องคัดเลือกข้าวชั้นดีซึ่งนิยมใช้ข้าวหอมมะลิชั้นดี โดยมีขั้นตอนและวิธีทำ ดังนี้
- ล้างข้าวด้วยน้ำเปล่าให้ยางข้าวหมด แล้วนำข้าวหอมมะลิเก่ามาทำการต้มให้สุกแบบครึ่งสุกครึ่งดิบ โดยสังเกตให้เม็ดข้าวแค่พอใส ๆ แล้วจึงนำมาล้างน้ำและสะเด็ดน้ำให้พอหมาด ๆ
- นำเอาข้าวมานึ่งจนสุก เมื่อสุกแล้วจึงเทใส่กระด้งให้สะเด็ดน้ำ แล้วจึงใส่ดอกไม้กลิ่นหอม หลังจากนั้นนำไปเทใส่ในหม้อดินและอบเทียนให้หอม หลังจากนั้นปิดภาชนะทิ้งไว้ข้ามคืนให้กลิ่นหอมติดข้าว
- หลังจากที่ไว้ข้ามคืนจะได้ข้าวแช่ที่มีความสะอาด มีกลิ่นหอมอ่อนๆเย็น ๆ ของดอกไม้
- สำหรับตัวน้ำที่ใช้สำหรับการแช่ข้าวจะใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วโดยจะใส่ดอกไม้กลิ่นหอมลงไปลอย ตามด้วยการอบควันเทียนกลิ่นดอกไม้ชนิดเดียวกันและทิ้งไว้ข้ามคืนเช่นเดียวกัน
- เมื่อได้ทั้งข้าวแช่และน้ำแล้วก็นำน้ำมาเทใส่ในข้าวอาจจะใส่น้ำแข็งลงไปเล็กน้อย ก็จะได้ข้าวแช่กลิ่นหอมอร่อยเย็นชื่นใจเอาไว้รับประทานกับเครื่องเคียง
ขั้นตอนและวิธีการทำเครื่องเคียงของข้าวแช่ หน้าร้อน
วิธีการทำไชโป๊ผัดหวาน
ล้างหัวผักกาดเข้มให้สะอาด 2-3 น้ำจนความเค็มลดลง นำไปผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ตั้งไฟใส่น้ำมันให้ร้อนเจียวกระเทียมให้พอเหลืองหอม แล้วจึงใส่หัวผักกาดผัดให้หอมตามด้วยน้ำตาลปี๊บน้ำเปล่าผัดจนแห้งและเหนียวเงาใส
วิธีการทำพริกหยวกยัดไส้
เตรียมวัตถุดิบโดยการล้างพริกหยวกคว้านไส้ออกเก็บขั้วพริกไว้ ทำการโขลกรากผักชีกระเทียมพริกไทยให้ละเอียด นำมาผสมกับหมูสับเนื้อกุ้งคนให้เข้ากันจนมีความเหนียว แล้วนำไปตักใส่ในพริกหยวก ปิดด้วยขั้วของพริกนำไปนึ่งให้สุกทิ้งไว้ให้เย็น
วิธีการทำปลาหวาน
นำเนื้อปลาไปโขลกให้ละเอียด ตั้งกระทะใส่น้ำมันเจียวหอม นำเนื้อปลาลงคั่วผัดให้พอแห้ง ตักใส่ภาชนะ ใส่น้ำมันเจียวหอมปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ แบะแซ น้ำเปล่า คนให้เข้ากันและใส่เนื้อปลา ผัดต่อจนแห้งจนมีลักษณะเหนียวและนำวัตถุดิบที่ได้นำมาปั้นเป็นรูปทรงกลมขนาดพอดีคำ
การทานข้าวแช่ หน้าร้อนนอกจากจะช่วยให้อร่อยคลายร้อนได้อย่างเพลิดเพลินจากน้ำเย็น ๆ ในข้าวแช่หอม ๆ แล้ว ส่วนประกอบเครื่องเคียงยังมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร บำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่องชุ่มชื้น ปรับสมดุลของร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี มีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง ลดอาการร้อนในปากแห้งปากแตกได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากใครที่อยากจะทดลองทำเมนูแสนอร่อย มีประโยชน์และช่วยรักษาอาหารไทยไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ลิ้มลองกันต่อไป ก็อย่าพลาดเคล็ดลับดีๆ นำไปรังสรรค์เมนูแสนอร่อยในช่วงหน้าร้อนให้ลูกหลานได้รับประทานคลายร้อนกันแบบฟิน ๆ