ถุงทอง อาหารว่างไทย ๆ ของชาววัง โดยปกติทั่วไปในมื้ออาหารมักจะมีทั้งของคาว และของหวานมาคู่กัน เพียงแค่เรามองเห็นอาหารก็รู้ได้เลยว่าอาหารชนิดนั้น ๆ อยู่ในหมวดไหน ซึ่งมันก็มีอาหารบางประเภทที่ไม่ตรงกับที่ตาเห็น ยกตัวอย่าง ช่อม่วง ที่หลายคนคิดว่ามันเป็นอาหารหวาน แต่มันเป็นอาหารคาวคล้ายกับ ถุงทอง ที่เราคิดว่าเป็นอาหารทั่วไป แต่มันเป็นเมนูกินเล่นที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน โดยที่มาของชื่อนี้มีความเชื่อกันว่า เป็นการอวยพรให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ นิยมมอบให้กันในงานมงคล เช่น งานแต่งงาน แต่ในปัจจุบันก็สามารถใช้ในงานจัดเลี้ยงต่าง ๆ ได้ ถ้าใครเคยกินจะรู้ว่ามันมีลักษณะคล้ายกับ ปอเปี๊ยะทอด ซึ่งเราจะชวน มาลองทำถุงทองอาหารว่างของชาววัง กัน
วัตถุดิบและวิธีการทำ ถุงทอง อาหารว่างไทย ๆ ของชาววัง
ส่วนผสม
- แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ
- ต้นหอมลวก
- เนื้อหมูบด
- เนื้อกุ้งบด
- แป้งข้าวโพด
- เมล็ดข้าวโพดต้มสุก
- เมล็ดถั่วลันเตา
- หอมใหญ่
- แครอท
- เห็ดหอม
- ซอสปรุงรส
- น้ำตาลทราย
- เกลือป่น
- น้ำมันพืช
- รากผักชี
- กระเทียม
- พริกไทยป่น
- น้ำจิ้มบ๊วย / น้ำจิ้มไก่
วิธีการทำ
- โขลกรากผักชี, กระเทียม และพริกไทยป่นเข้าด้วยกัน เตรียมรอไว้สำหรับทำเป็นส่วนผสม
- นำสิ่งที่โขลกไว้ใส่ลงในไปชามผสมตามด้วยหมูบด, กุ้งบด, แป้งข้าวโพด, เมล็ดข้าวโพด, เมล็ดถั่วลันเตา, หอมใหญ่หั่นเต๋า, แครอทหั่นเต๋า และเห็ดหอม ลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เพิ่มความอร่อยด้วยซอสปรุงรส, น้ำตาลทราย และเกลือป่น คลุกให้เข้ากัน
- เปิดไฟตั้งกระทะใส่น้ำมัน เมื่อเริ่มร้อนให้นำส่วนผสมที่คลุกดีแล้วลงไปผัดให้สุกแล้วตักขึ้นพัก (แนะนำให้ผัดให้แห้งที่สุด เพื่อช่วยรักษาความกรอบของแป้งไว้)
- . นำส่วนผสมที่ผัดเสร็จวางบนแผ่นแป้งปอเปี๊ยะแล้วห่อให้เป็นรูปถุง มัดด้วยต้นหอมที่ลวกไว้แค่พอไม่ให้หลุดออกจากกัน
- . ตั้งกระทะอีกครั้งแล้วนำ ถุงทอง ลงไปทอดด้วยไฟกลางจนร้อน เมื่อเหลืองกรอบได้ที่ให้ตักขึ้นพัก เพื่อให้สะเด็ดน้ำมันจนหมด
- เสิร์ฟถุงทองคู่น้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มไก่
วิธีทำน้ำจิ้ม ถุงทอง
บางคนอาจไม่ค่อยชอบรสชาติของน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มไก่มากนัก ดังนั้น เราสามารถประยุกต์น้ำจิ้มแบบของเราเองได้โดยใช้น้ำตาลทราย, เกลือ และน้ำส้มสายชู มาผสมกันแล้ว จากนั้นให้นำไปตั้งไฟจนละลาย เมื่อเดือดแล้วเติมพริกแดงโขลกลงไปแล้วตักเสิร์ฟได้เลย