ยุคนี้สมัยนี้ วิถีชีวิตของผู้คนมีแต่ความเร่งรีบ การรับประทานอาหารจานด่วน หรือ ฟาสต์ฟู้ด จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นแม้ว่าเหตุผลหลัก ๆ จะเกิดจากการไม่มีเวลา แต่ก็มีหลายคนที่รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อยจนเคยชินไปแล้วเพราะติดใจในรสชาติ โดยละเลยถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากการรับประทานบ่อย ๆ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ภัยจากอาหารฟาสต์ฟู้ด มีอะไรบ้าง หลายท่านจะได้ตระหนักและหันมาใส่ใจ ลด ละ เลิก การรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดลงบ้าง
1. เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
อาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่จะมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลักเพราะทำให้อาหารมีรสชาติที่ถูกปาก และมีไขมันจากน้ำมันที่ใช้ในการทอดจากเมนูประเภท ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ซึ่งอาจจะเป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คนใช่มั้ยคะ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าคนที่รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดจะได้สารอาหารเพียงแค่ประเภทแป้งและไขมันเท่านั้น สารอาหารประเภทวิตามินจากผักผลไม้นั้นไม่มีเลย เนื่องด้วยกระแสการต่อต้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมีมากขึ้น ร้านอาหารบางร้านจึงพยายามจะเพิ่มเมนูผัก ผลไม้ เข้าไปด้วย แต่ก็ยังได้ในปริมาณที่น้อยอยู่เมื่อเทียบกับการรับประทานอาหารไทยทั่วไป แต่หากไม่มีเวลาจริง ๆ และจำเป็นต้องทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ก็ควรพิจารณาเลือกสรรเมนูที่มีความหลากหลายที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่นะคะ
2. เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน
ข้อดีของอาหารฟาสต์ฟู้ด คือ ช่วยประหยัดเวลา ปรุงเสร็จไว ทานเสร็จไว กลับไปทำงานได้ไว อาหารฟาสต์ฟู้ดจึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนทำงานโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบตลอดเวลา ในอาหารฟาสต์ฟู้ดมักจะประกอบด้วย น้ำมัน ชีส เนย ซึ่งมีปริมาณไขมันสูง หลังจากรับประทานเสร็จก็มานั่งทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมง โดยไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ไขมันจึงพอกพูน สะสมอยู่ในร่างกายในปริมาณมากจนน้ำหนักขึ้นทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ค่ะ จากหลายงานวิจัยพบว่าโรคอ้วนมักจะเกิดขึ้นกับคนมีฐานะปานกลางจนถึงคนมีฐานะสูงและเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมือง เพราะคนเหล่านี้ทำงานหนัก ไม่มีเวลาดูแลเรื่องอาหารการกิน นิยมทานอาหารที่ทำเสร็จไว รวมทั้งไม่มีเวลาออกกำลังกายด้วยนั่นเองค่ะ
3. ทำให้เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น ไก่ทอด มันฝรั่งทอด มักจะมีไขมันทรานส์อยู่เป็นจำนวนมาก มีผลทำให้คลอเรสเตอรอลสูง ถ้าสะสมมาก ๆ จะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด เส้นเลือดก็จะตีบ เลือดไปสูบฉีดหัวใจได้น้อยลง จนที่สุดหัวใจอาจจะวายได้ นอกจากไขมันทรานส์แล้ว ศัตรูตัวร้ายอีกตัวในอาหารฟาสต์ฟู้ดก็คือ โซเดียม ประโยชน์ของโซเดียม คือ ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย ทำให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดี แต่โซเดียมที่อยู่ในอาหารฟาสต์ฟู้ดมักจะเกินกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน (ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม) โซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป มีผลทำให้เลือดเสียสมดุล หลอดเลือดจึงพยายามดูดน้ำเข้ามาเจือจางโซเดียม จนทำให้แรงดันเลือดสูงขึ้นและกลายเป็นโรคความดันโลหิตสูงในที่สุดค่ะ
4. เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม
การรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อย ๆ นั้นทำให้ไขมันในเลือดสูง งานวิจัยในประเทศอังกฤษได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีกรดไขมันในกระแสเลือดที่สูงจะมีการฝ่อตัวของสมองที่สูงตามไปด้วย นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่จะป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ หากคุณเป็นคนที่รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำ และเป็นคนที่มีไขมันในเลือดสูง ขอให้พึงระวังภัยข้อนี้ให้ดีนะคะ ลองค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ปลา ถั่ว และหมั่นออกกำลังกายให้บ่อยขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะโรคสมองเสื่อม